เอกสารอื่นๆ
กฏบัตรคณะกรรมการ
นโยบายการกำกับดูแลกิจการของบริษัทฯ
คณะกรรมการบริษัทเชื่อว่า การที่บริษัทฯ มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดีจะเป็นปัจจัยสำคัญ ในการนำ บริษัทฯ ไปสู่ความสำเร็จ และบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ และการเสริมสร้างให้บริษัทฯ มีระบบของการปฏิบัติงาน ที่มีประสิทธิภาพจะเป็นพื้นฐานของการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ยั่งยืน และจะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกราย คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักของการบริหารจัดการที่ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และมี การเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ทันกาล ระมัดระวังและรักษาผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม รวมทั้งคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม
นโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 5 หมวด ดังนี้
สิทธิของผู้ถือหุ้น
ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการในเรื่องต่างๆ ที่เป็นการส่งเสริมในการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้น ที่เกี่ยวกับการประชุมผู้ถือหุ้น ดังนี้
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน
ในการจัดการประชุมผู้ถือหุ้น บริษัทฯ มีนโยบายให้ผู้ถือหุ้นทุกรายได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ดังนี้ :
บทบาทกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
คณะกรรมการบริษัทมีนโยบายที่จะดูแลและรักษาสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียนั้นมั่นใจได้ว่าสิทธิดังกล่าว จะได้รับการคุ้มครองและ ปฏิบัติด้วยความเท่าเทียมกัน ดังนี้
การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส
คณะกรรมการบริษัทมีนโยบายที่จะดูแลและรักษาสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียนั้นมั่นใจได้ว่าสิทธิดังกล่าว จะได้รับการคุ้มครอง และปฏิบัติด้วยความเท่าเทียมกัน ดังนี้
รายงานของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัทได้จัดให้มีรายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทฯ ในเรื่องงบการเงิน ของบริษัทฯ และเรื่องที่สำคัญต่างๆ ตามข้อพึงปฏิบัติที่ดีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด แสดงไว้ควบคู่กับรายงานของผู้สอบบัญชีในรายงานประจำปี โดยคณะกรรมการตรวจสอบจะเป็นผู้สอบทานคุณภาพของรายงานทางการเงิน และระบบการควบคุมภายใน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลสำคัญอย่างเพียงพอใน หมายเหตุประกอบงบการเงิน โดยจะหารือ และประชุมร่วมกับฝ่ายจัดการ และผู้สอบบัญชีภายนอก เพื่อให้ การรายงานทางการเงินของบริษัทฯ มีความถูกต้องและครบถ้วน
ความสัมพันธ์กับผู้ลงทุน
คณะกรรมการบริษัทได้ให้ความสำคัญในการเปิดเผยข้อมูลที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน และโปร่งใส ทั้งในส่วนของการรายงานข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลทั่วไป รวมถึงข้อมูลสำคัญที่มีผลกระทบต่อบริษัทฯ ให้ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบอย่างทั่วถึง ทันเวลา และตามวิธีการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดโดย บริษัทฯ ได้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวผ่านช่องทาง และสื่อการเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ www.susco.co.th และเพื่อให้การเปิดเผยข้อมูลของบริษัทฯ มีความถูกต้อง ครบถ้วน น่าเชื่อถือ และยังเป็นการป้องกันข่าวลือต่างๆ บริษัทฯ ได้มอบหมายกรรมการผู้จัดการ และ/หรือ รองกรรมการผู้จัดการ โดยผู้ลงทุนสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2428 0029 หรือที่ E-mail marvee@susco.co.th
ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน
คณะกรรมการบริษัทมีช่องทางให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มสามารถร้องเรียน แจ้งเบาะแสต่างๆ ต่อคณะกรรมการโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการทุจริต พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน การถูกละเมิดสิทธิ หรือเรื่องอื่นๆ ที่อาจจะเป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยได้มอบหมาย ให้คณะกรรมการตรวจสอบเป็นผู้รับเรื่องและกลั่นกรองรายละเอียด ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อทราบหรือพิจารณาต่อไป การติดต่อคณะกรรมการบริษัทสามารถกระทำผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ส่งหนังสือ, E-mail, เว็บไซต์, โทรศัพท์, หรือโทรสาร ดังนี้ :
คณะกรรมการตรวจสอบ
บริษัท ซัสโก้ จำกัด(มหาชน)
139 ถนนราษฏร์บูรณะ แขวงบางปะกอก เขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพฯ 10140
E-mail : corporatesecretary@susco.co.th
Website : www.susco.co.th
โทรศัพท์ : 0 2428 0029 ต่อ 110 หรือ 111 โทรสาร : 0 2428 8001
ในกรณีที่เรื่องร้องเรียนเป็นเรื่องทุจริต คณะกรรมการตรวจสอบจะส่งเรื่องให้คณะทำงานการต่อต้าน- การทุจริตคอร์รัปชันเพื่อพิจารณาหาข้อเท็จจริง แล้วให้เสนอเรื่องกลับให้คณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาโดยเร็วที่สุด
สำหรับกรณีอื่นๆ คณะกรรมการตรวจสอบจะพิจารณาร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หากเป็นการร้องเรียน จากพนักงาน ให้ดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้นหรือตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ แล้วแต่กรณี
ในกรณีที่ผู้ร้องเรียนเห็นว่า ในการร้องเรียนนั้น หากจะเปิดเผยตัวเองแล้ว อาจจะมีผลกระทบต่อตน ก็อาจจะไม่เปิดเผยตัวเองได้ ไม่ว่ากรณีจะเป็นเช่นไร บริษัทฯ ก็จะให้ความคุ้มครองแก่ผู้ร้องเรียนจาก การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมเสมอ
ความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้กำกับดูแลกิจการ และเป็นผู้กำหนดนโยบาย กลยุทธ์ แผนธุรกิจ งบประมาณ รายรับ-รายจ่าย เป็นประจำทุกปี เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นโดยรวม
บทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ มีดังนี้
1.ภาวะผู้นำ วิสัยทัศน์ และความเป็นอิสระในการตัดสินใจ
คณะกรรมการบริษัทมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย พิจารณา อนุมัติและ ทบทวนกลยุทธ์ เป้าหมาย แผนธุรกิจ งบประมาณรายรับ-รายจ่าย และการบริหารความเสี่ยง ของบริษัทฯ ตลอดจนควบคุมดูแลให้ผู้บริหารดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย แผนงาน และ งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังได้ให้ความสำคัญ ในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยได้จัดทำนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทฯ เป็น ลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งให้ความเห็นชอบ ทบทวน ประเมินผลการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเน้นให้บริษัทฯ มีระบบการควบคุมภายในที่ดี มีมาตรการบริหารความเสี่ยง ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการติดตามการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทจึงจำเป็นที่จะต้องประกอบด้วยบุคคลผู้มีภาวะความเป็นผู้นำมีวิสัยทัศน์และ มีความเป็นอิสระในการตัดสินใจเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯและผู้ถือหุ้น
2. โครงสร้างคณะกรรมการบริษัท
2.1 การถ่วงดุลของกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
2.2 การรวมหรือแยกตำแหน่ง
2.3 คุณสมบัติของผู้ที่ดำรงตำแหน่งกรรมการและกรรมการอิสระ
3. คณะกรรมการบริหารได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการดูแลควบคุมและป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ดังนี้
3.1 จัดโครงสร้างและองค์ประกอบของบริษัทฯ และคณะกรรมการชุดต่างๆ พร้อมทั้ง กำหนด อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจน ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
3.2 ส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพและไม่ให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ส่วนตัวเหนือความรับผิดชอบ
ที่มีต่อบริษัทฯ รวมถึงการรักษาความลับของลูกค้า และการไม่นำข้อมูลภายในของบริษัทฯ
และลูกค้าไปเปิดเผย หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือผู้อื่น
3.3 การตัดสินใจใดๆ ที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือกรณีที่มีการกระทำบางอย่าง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ แต่ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ที่แตกต่างกันของผู้มีส่วนได้เสีย
ในแต่ละกลุ่ม คณะกรรมการบริษัทและฝ่ายบริหารจะพิจารณาปัญหาดังกล่าวอย่าง-รอบคอบ ด้วยความระมัดระวัง ซื่อสัตย์สุจริต มีเหตุผลและเป็นอิสระใต้กรอบจริยธรรมที่ดี เพื่อผลประโยชน์ของบริษัทฯ เป็นสำคัญ
3.4 ในกรณีที่มีประเด็นซึ่งอาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือเป็นการทำรายการ-ที่เกี่ยวโยงกัน หรือเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวโยงกับรายการที่พิจารณา กรรมการ
ผู้ที่มีส่วนได้เสียต้องเปิดเผยข้อมูลให้ที่ประชุมทราบและไม่มีสิทธิออกเสียงในวาระนั้น
3.5 กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนต้องไม่กระทำการใดที่เป็นการขัดต่อผลประโยชน์ ของบริษัทฯ หรือการใช้โอกาส หรือข้อมูลที่ได้จากการเป็นกรรมการ หรือพนักงานใน
การหาผลประโยชน์ส่วนตน หรือการทำธุรกิจที่แข่งขันกับบริษัทฯ หรือการทำงานอื่น นอกเหนือจากงานของบริษัทฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่
4. ในการดำเนินธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ และบรรลุเป้าหมายสูงสุดอย่างยั่งยืน รวมถึงการมีระบบ การปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจอยู่ด้วยเสมอ คณะกรรมการบริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดทำ “คู่มือจริยธรรมธุรกิจ” ไว้เป็น ลายลักษณ์อักษร เพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนของบริษัทฯ และบริษัทย่อยยึดถือ เป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรม ทั้งการปฏิบัติต่อลูกค้าผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
5. คณะกรรมการบริษัทได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อระบบการควบคุมภายใน ทั้งในระดับ-บริหาร และระดับปฏิบัติการเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่บริษัทฯ ทั้งด้านการเงิน การดำเนินงาน การบริหารความเสี่ยง และการกำกับดูแลการปฏิบัติงาน จึงได้กำหนดนโยบาย เกี่ยวกับระบบการควบคุมและตรวจสอบภายในไว้ ดังนี้
5.1 ให้ผู้บริหารของบริษัทฯ เป็นผู้รับผิดชอบต่อการจัดทำรายงานทางการเงินให้มีความถูกต้อง
ครบถ้วน และทันเวลา ทั้งงบการเงินรายไตรมาสและรายปี
5.2 ให้มีระบบการควบคุมและตรวจสอบภายในที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้มั่นใจได้ว่า บริษัทฯ มี
การปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การตรวจสอบของ
ผู้ตรวจสอบภายใน และการสอบทานของคณะกรรมการตรวจสอบ
5.3 กำหนดอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบในการดำเนินการของผู้บริหารไว้เป็นลายลักษณ์-อักษร
5.4 ให้มีการควบคุมและตรวจสอบการใช้สินทรัพย์ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อมิให้เกิดความเสียหายหรือมีการนำไปใช้หรือหาประโยชน์โดยมิชอบ
5.5 มีการแบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคคลหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลและ
ตรวจสอบระหว่างกันอย่างเหมาะสม
5.6 ให้ความสำคัญต่อคำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะของผู้สอบบัญชีอิสระ เพื่อเป็นแนวทาง
ในการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานให้ถูกต้องเหมาะสม
6. คณะกรรมการบริษัทจัดให้มีการประชุมโดยยึดหลักปฏิบัติ ดังนี้
6.1 ได้กำหนดการประชุมวาระปกติไว้ล่วงหน้าว่าจะมีเป็นประจำทุกเดือน เพื่อที่กรรมการ
จะได้จัดสรรเวลาของตนสำหรับการประชุมทุกครั้งได้โดยสะดวก นอกจากนั้น ยังอาจ
มีการประชุมวาระพิเศษเพิ่มเติมตามความจำเป็นได้อีกด้วย โดยในการประชุมวาระปกติ
ทุกครั้งจะมีการติดตามเรื่องที่สืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาและผลการดำเนินงานประจำเดือน และ/หรือ ประจำงวดของบริษัทฯ
6.2 ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท จะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะครบเป็นองค์ประชุม
6.3 ประธานกรรมการเป็นผู้ให้ความเห็นชอบในเรื่องวาระของการประชุม โดยการเตรียมการร่วมกันของประธานกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ และเลขานุการบริษัท โดยจะพิจารณาคำขอของกรรมการและผู้บริหารระดับสูง ที่จะบรรลุเรื่องที่สำคัญเป็นวาระในการประชุมด้วย
6.4 ประธานกรรมการจะจัดสรรเวลาให้อย่างเพียงพอที่ฝ่ายบริหารจะเสนอเรื่องเพื่อการอภิปราย และมีเวลามากพอที่กรรมการจะอภิปรายปัญหาได้อย่างรอบคอบ
6.5 คณะกรรมการบริษัทสนับสนุนให้มีการเชิญผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการ เพื่อให้ข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติมในฐานะที่เป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง
6.6 กรรมการบริษัทสามารถเข้าถึงและขอข้อมูล คำปรึกษา และบริการต่างๆ ที่จำเป็นเพิ่มเติม ได้จากผู้ที่ได้รับมอบหมายหรืออาจขอความเป็นที่เป็นอิสระจากที่ปรึกษาภายนอกด้วยก็ได้
6.7 ผู้บริหารมีหน้าที่ให้ข้อมูลและความเห็นที่เหมาะสมแก่คณะกรรมการบริษัท
6.8 เลขานุการบริษัทเป็นผู้จัดส่งหนังสือเชิญประชุม พร้อมด้วยระเบียบวาระการประชุมเอกสารประกอบการประชุมในแต่ละวาระ ให้แก่กรรมการก่อนการประชุมล่วงหน้า
ไม่น้อยกว่า 7 วัน เพื่อให้กรรมการทุกท่านมีเวลาเพียงพอที่จะศึกษาข้อมูลต่างๆ ก่อนการเข้าร่วมประชุมในแต่ละครั้ง
6.9 ในการประชุมคณะกรรมการบริษัททุกครั้ง มีการบันทึกรายงานการประชุมเป็นลายลักษณ์-อักษณในทุกวาระอย่างครบถ้วน และจัดเก็บรายงานดังกล่าวที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว เพื่อให้คณะกรรมการบริษัท และ/หรือผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
7. คณะกรรมการบริษัทมีนโยบายที่จะเสริมสร้างความรู้แก่กรรมการ ทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลเรื่องสำคัญที่มีการประกาศใช้ รวมทั้งการส่งเสริมให้กรรมการเข้ารับการอบรมหลักสูตรที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ
คณะกรรมการบริษัทได้ดูแลบริหารจัดการกิจการของบริษัทฯ โดยปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมทั้ง 5 หมวด คือ สิทธิของผู้ถือหุ้น การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน การคำนึงถึงบทบาทต่อผู้มีส่วนได้เสีย การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท ซึ่งที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัท ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกิจการหลายเรื่องที่สำคัญ ได้แก่
เรื่องการไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือลิขสิทธิ์
คณะกรรมการบริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของการไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือลิขสิทธิ์ จึงได้กำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งในแนวปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยด้านสารสนเทศ ซึ่งได้อนุมัติและ ประกาศใช้เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 หากผู้ใดฝ่าฝืน จะต้องได้รับโทษตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ของบริษัทฯ
เรื่องนโยบายการดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนอื่นของกรรมการผู้จัดการ
คณะกรรมการบริษัทได้กำหนดนโยบายการดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนอื่นของ กรรมการผู้จัดการ โดยให้กรรมการผู้จัดการดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนรวมกันได้ไม่เกิน 3 บริษัท และให้แจ้งคณะกรรมการล่วงหน้าก่อนการเข้ารับตำแหน่งนั้น เพื่อให้มั่นใจว่ากรรมการผู้จัดการ จะสามารถทุ่มเทเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทฯ ได้อย่างเพียงพอ
การทบทวนและนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2560 (CG code)มาปรับใช้ คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืนมีการพิจารณาและทบทวนการนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน ปี 2560 (CG code) ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบททางธุรกิจและนำเสนอเพื่อให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาทบทวนปีละ 1 ครั้ง
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 11/2567 ได้รับทราบเกี่ยวกับ การทบทวนการนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2560 (CG Code) ซึ่งผ่าน การทบทวนจากคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน มาปรับใช้ตามบริบททางธุรกิจตาม ความเหมาะสม และได้บันทึกเหตุผลหลักเกณฑ์บางประการที่บริษัทฯ ยังไม่สามารถปฏิบัติตามได้ใน รายงานการประชุมคณะกรรมการ เช่น เรื่องความเป็นอิสระของประธานกรรมการ และคณะกรรมการควร กำหนดนโยบายให้กรรมการอิสระมีการดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง ไม่เกิน 9 ปี นับจากวันที่ได้รับการแต่งตั้งให้ ดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระครั้งแรก ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า ประธานกรรมการและกรรมการอิสระของบริษัทฯ เป็นผู้ที่มีคุณวุฒิและประสบการณ์ที่เหมาะสม และทุกท่านมีความเป็นอิสระในการทำงานอยู่แล้ว ซึ่งมิได้ส่งผลกระทบอื่นใดที่มีนัยสำคัญต่อบริษัทฯ
การประชุม ประจำปี 2567 | จำนวน (ครั้ง) |
---|---|
ประชุมคณะกรรมการบริษัท | 12 |
ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ | 5 |
ประชุมคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหา | 3 |
ประชุมคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน | 5 |
ประชุมคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง | 4 |
ประชุมคณะกรรมการบริหาร | 3 |
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารได้ประชุมระหว่างกันเอง เพื่ออภิปรายปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการที่อยู่ในความสนใจ โดยไม่มีฝ่ายจัดการร่วมด้วย และได้แจ้งผลการประชุมให้กรรมการผู้จัดการรับทราบ
เติมพลังให้วันของคุณ
สำนักงานใหญ่และคลังน้ำมันราษฎร์บูรณะ